คนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้และเข้าใจผังงานได้ง่าย เพราะผังงานไม่ขึ้นอยู่กับภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารได้ทุกภาษา 2. ผังงานเป็นการสื่อความหมายด้วยภาพ ช่วยลำดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรมให้ง่ายและสะดวกต่อการทาความเข้าใจ สามารถนำไปเขียนโปรแกรมได้โดยไม่สับสน ซึ่งถ้าหากใช้ข้อความหรือคาพูดอาจจะสื่อความหมายผิดไปได้ 3. ในงานโปรแกรมที่ไม่สลับซับซ้อน ช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของลำดับขั้นตอน และแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิดข้อผิดพลาด 4. ช่วยให้ผู้อื่นสามารถศึกษาการทำงานของโปรแกรมได้อย่างง่าย สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น 5. การบำรุงรักษาโปรแกรมหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโปรแกรมในภายหลัง ให้มีประสิทธิภาพ ถ้าพิจารณาจากผังงานจะช่วยให้สามารถทบทวนงานในโปรแกรมก่อนปรับปรุง แก้ไขได้สะดวกและง่ายขึ้น วิธีการเขียนผังงานที่ดี การเขียนผังงานควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ 1. ใช้สัญลักษณ์ตามที่กำหนดไว้ 2. ผังงานจะต้องมีจุดเริ่มต้น (Start) และสิ้นสุด (Stop) 3. ใช้หัวลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากบนลงล่างหรือซ้ายไปขวา (ยกเว้นที่ต้องทำซ้ำ) 4. ทุกแผนภาพต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้า 1 เส้นและออก 1 เส้นโดยไม่มีการปล่อยจุดใดจุดหนึ่งไว้ 5.
3 โปรแกรมโครงสร้าง การออกแบบโปรแกรม คือ การนำเอาขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมมาแสดงตามลำดับ ลำดับขั้นตอนนี้ได้มีการสรุปเป็นรูปแบบพื้นฐานไว้เป็น 3 รูปแบบ และโปรแกรมที่ใช้รูปแบบพื้นฐานดั้งกล่าวมาประกอบกันเรียกว่าโปรแกรมโครงสร้าง ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 1. โครงสร้างรูปแบบลำดับ 2. โครงสร้างรูปแบบเลือก 3. โครงสร้างรูปแบบทำซ้ำ
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ 2. การสร้างโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ การพัฒนาระบบงานทางคอมพิวเตอร์ > การวิเคราะห์ปัญหา > การออกแบบโปรแกรม หน้าเว็บย่อย (1): การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ Comments
เขียนคำอธิบายการทำงานในแต่ละขั้นตอนโดยใช้ข้อความที่สั้น กะทัดรัด ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย 6. ควรหลีกเลี่ยงโยงเส้นไปมาทาให้เกิดจุดตัดมากเพราะจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดง่าย ควรใช้สัญลักษณ์เชื่อมจุดต่อเนื่องแทน 7. ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ควรใช้สัญลักษณ์จุดเชื่อมต่อแทน 8. ผังงานที่ดีควรมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดและชัดเจน สามารถเข้าใจและติดตามขั้นตอนได้ง่าย 9. ผังงานควรมีการทดสอบความถูกต้องของการทำงานก่อนไปเขียนโปรแกรม
การออกแบบโปรแกรมที่มุ่งเน้นข้อมูล (Data-Driven) เป็นการออกแบบโปรแกรมที่ตั้งอยู่บนแนวความคิดของข้อมูลในโปรแกรมมากกว่ากระบวนการ ซึ่ง จะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลและความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล มีการกําหนดโครงสร้างข้อมูลเบื้องต้น ครั้นเมื่อโครงสร้างข้อมูลถูกกําหนดขึ้นมาแล้ว ความต้องการในผลลัพธ์ของข้อมูลก็จะถูกพิจารณาในลําดับ ถัดไปว่า จะต้องมีกระบวนการใดที่ทําหน้าที่แปลงข้อมูลนําเข้าเหล่านี้เพื่อนําไปสู่ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ